วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ที่มาของการฝึกสมันให้ทันเสือ ( 1 )

เช้าวันหนึ่งได้รับการติดต่อจากนักวิ่งที่อ่านบทความที่ผมเขียนในเวบไซค์ เพื่อขอคำแนะนำในการวิ่งและมีข้อสงสัยในท่าทางการวิ่งของตัวเองว่าถูกต้องหรือไม่ จึงได้มีการนัดแนะกันเพื่อมาพบปะพูดคุยที่ร้านอาหารชื่อดังย่านถนนรามคำแหง
                   ในวันนั้นหลังจากที่ได้แนะนำตัวและพูดคุยกันก็ทราบว่าเป็นกลุ่มนักวิ่งหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสู่วงการวิ่งเพื่อสุขภาพและศึกษาอย่างจริงจังเพื่อที่จะหารูปแบบในการพัฒนาการวิ่งของตัวเองและเพื่อนๆให้ดีขึนซึ่งได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการรวบรวมกลุ่มนักวิ่งเพื่อสุขภาพเข้ามาฝึกซ้อมร่วมกันทุกเช้าวันเสาร์ ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก
                         ในการฝึกนักวิ่งกลุ่มนี้ค่อนข้างยากในบางเรื่องและก็ง่ายในบางเรื่องเช่นเดียวกัน ที่ยากก็เป็นเรื่องที่ต้องละเอียดอ่อนเป็นอย่างมากกับข้อมูลและรูปแบบการฝึกซ้อมที่ต้องชัดเจนและอธิบายที่มาที่ไปอย่างมีเหตุมีผลสามารถอ้างอิงกับหลักวิชาการได้ส่วนเรื่องที่ง่ายก็คือทุกคำแนะนำนักวิ่งกลุ่มนี้จะเข้าใจง่ายและใช้เวลาที่ไม่นานนักกับการฝึกใหม่ๆเนื่องมาจากมีพื้นฐานความรู้ที่ได้ค้นคว้ามารวมถึงวิธีการฝึกรูปแบบต่างๆที่เคยนำมาฝึกก่อนหน้านี้
                         เริ่มต้นมีนักวิ่งที่มาฝึกร่วมกันเพียง 8 คน เป็นผู้ชาย 7 คน ผู้หญิง 1 คน พื้นฐานและต้นทุนการวิ่งที่ค่อนข้างแตกต่างจึงต้องใช้วิธีการสอนแบบตัวต่อตัวและเขียนโปรแกรมการฝึกซ้อมเป็นรายคน การที่นักวิ่งจะสามารถมาพบปะและวิเคราะห์ผลการฝึกซ้อมได้ต้องรอถึง 1 สัปดาห์ จึงใช้การติดต่อทางโทรศัพท์และทางอินเตอร์เน็ท แต่ก็ไม่สมบูรณ์นักเมื่อเทียบกับการเข้าไปดูแล ควบคุมการฝึกด้วยตัวเองทุกวัน ซึ่งผู้ฝึกสอนจะมองเห็นในรายละเอียดของนักวิ่งแต่ละคนและนำมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุง แก้ไขในจุดบกพร่องได้ทันที โปรแกรมแรกถูกวางเป้าหมายไว้ที่ 2 เดือน เน้นลักษณะท่าทางการวิ่งในรูปแบบที่ผมสอนเป็นการเฉพาะ และเพิ่มการพัฒนาระบบไหลเวียนซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาระบบแอโรบิค หัวใจของการวิ่งระยะไกล
                       นักวิ่งที่เข้าร่วมโครงการมีความมุมานะ และขยัน มีวินัยค่อนข้างมาก แม้ว่าภารกิจในการทำงานที่เป็นเจ้าของกิจการและบางคนก็เรียนในระดับปริญญาเอก ที่มีการเรียนที่ค่อนข้างหนักแต่ก็ยังสามารถที่จะฝึกซ้อมตามโปรแกรมได้ครบถ้วนและมีพัฒนาการที่ค่อนข้างพอใจ


                       ในสัปดาห์แรกๆ มีการวิ่งทางไกลอย่างช้า ๆ และเน้นในเรื่องของการวอร์มก่อนวิ่ง การคลูดาวน์ กายบริหาร ยืดเหยียด ให้ถูกขั้นตอน หลังจากที่เริ่มเคยชินแล้วเพิ่มการฝึกท่าทางการวิ่ง การฝึกท่า drills เพื่อเตรียมพื้นฐานที่จะเข้าสู่การฝึกความเร็วในระยะต่อไป ในการฝึกระยะนี้จะเริ่มเห็นความแตกต่างของการพัฒนาในตัวนักวิ่งแต่ละคน บางคนก็ไปได้เร็ว บางคนก็ไปได้อย่างช้าๆ รูปแบบการฝึกซ้อมของแต่ละคนเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามความเหมาะสมกับการพัฒนาที่เกิดขึ้น หลังจากการฝึกซ้อมผ่านพ้นไปได้ 1 เดือน 
                        ด้วยความที่อยากเห็นถึงความก้าวหน้าจากการฝึก ก็มีการขอไปลองลงสนามแข่งขันที่มีการจัดเป็นประจำทุกสัปดาห์ของสนามวิ่งในเมืองไทย ก็ต้องปล่อยให้ไปทดสอบดู ผลที่ออกมาก็สร้างความพอใจให้กับคนที่ลงไปทดสอบได้พอสมควร ซึ่งการฝึกซ้อมที่สร้างพื้นฐานของนักวิ่งระยะไกลที่ต้องมีการสร้างอย่างสะสมจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการพัฒนาระบบต่างๆของร่างกาย ยิ่งถ้าเป็นนักวิ่งที่เริ่มต้นในช่วงที่เลยวัยเจริญเติบโตไปแล้ว ยิ่งจำเป็นต้องใช้ความระมัด ระวัง ในการเสริมสร้างความแข็งแรงเป็นอย่างมาก 
                        ผมมักจะไม่เสี่ยงที่จะให้นักวิ่งกลุ่มนี้ใช้เวท เทรนนิ่ง แต่จะให้ฝึกโดยใช้ บอดี้ เวทแทน ถึงแม้ว่าการพัฒนาความแข็งแรงจะช้ากว่า การพัฒนาความเร็วก้าวหน้าน้อยกว่าแต่ก็จะเป็นการปลอดภัยสำหรับนักวิ่งมากกว่า

2 ความคิดเห็น: