แต่ทำได้ไม่เหมือนกัน วิ่งเร็ว วิ่งช้า วิ่งนาน วิ่งไกล
ขึ้นอยู่กับต้นทุนทางร่างกายของแต่ละคน
บางคนมีพื้นฐานจากการเล่นกีฬาประจำ
บางคนทำงาน office ทั้งวันไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน
บางคนแค่ลืมตาตอนเช้าก็แทบจะเหนื่อยหอบแล้ว
ดังนั้นเราจึงต้องหาความเหมาะสม
ในการเริ่มวิ่งระยะแรกของเราให้ได้ก่อน
ถ้าเคยวิ่งหรือออกกำลังกายอยู่บ้าง
ก็คงจะประเมินความเหนื่อยของตัวเองได้บ้าง
แต่ถ้าไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนเลย
นี่ซิ....ที่ต้องเริ่มต้นอย่างใจเย็นๆ
บางคนใจร้อนรีบออกวิ่งปู๊ดป๊าดไม่รอเพื่อน
กะว่าวิ่งเร็วเสร็จก่อน พักก่อน ไปไม่ถึงไหนหายแว๊บ
เพื่อนๆงง คิดว่าวิ่งเร็วจนมองไม่ทันเห็น
ที่ไหนได้....แอบหอบอยู่หลังพุ่มไม้ข้างหน้าไม่ถึง 200 เมตร ( ฮา )
ใจเย็นๆครับ เริ่มจากการเดินก่อนก็ได้ไม่เสียหายหรือน่าอับอาย
แล้วค่อยๆปรับการเดินให้เร็วขึ้นหรือวิ่งเหยาะๆไปเรื่อยๆ
พอรู้สึกมีอาการเหนื่อยหอบนิดๆก็ชะลอลงเปลี่ยนสลับเป็นเดิน
อย่างน้อยให้ได้ต่อเนื่องวันละ 20 นาทีแล้วค่อยๆเพิ่มให้นานขึ้น
ระยะเริ่มแรกนี้ที่ต้องเน้นเป็นพิเศษก็คือ
อย่าเดินหรือวิ่งจนมีอาการอ่อนเพลียหรือเหนื่อยจนเกินไป
แค่พอให้เหงื่อออกมีอาการเหนื่อยหอบเล็กน้อย
หัวใจเต้นแรงขึ้น มีความรู้สึกกระฉับกระเฉง ผ่อนคลายก็พอแล้ว
ฝึกเล่นกายบริหาร การยืดหยุ่นส่วนต่างๆของร่างกาย
เพื่อพัฒนาในส่วนโครงสร้างให้มีการทำงานที่ดีขึ้น
จะส่งผลทำให้การเดินและวิ่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เรื่องความเร็วลืมไปก่อนได้เลยครับ
ปฏิบัติอย่างนี้โดยลดการเดินลงเพิ่มการวิ่งมากขึ้น
จนสามารถวิ่งได้ตลอดระยะทางในเวลา 20 นาที
ต่อจากนี้ไปการวิ่งก็ไม่เป็นเรื่องยากสำหรับคุณแล้วครับ
ยิ่งอ่านยิ่งสนุก .... อ่านต่อ
ตอบลบ